สอบถามบริการดูแลเรื่องวีซ่า https://www.facebook.com/helpforvisa/

วีซ่าออสเตรเลีย ตอน เอเจ้นท์แย่ๆ สามารถทำให้ชีวิตพังได้

สาเหตุหนึ่งที่ผมพยายามให้ข้อมูลเพื่อให้ทุกคนทำวีซ่าได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องใช้เอเจ้นท์ ทั้งๆที่ผมก็ทำงานเป็นเอเจ้นท์ เพราะผมไม่อยากให้ใครต้องไปเจอเอเจ้นท์ไร้คุณภาพ

ขออนุญาตเล่าให้ฟัง

ลูกค้าคนนึงเข้ามาปรึกษาผมที่ออฟฟิศ เพราะโดนปฏิเสธวีซ่ามา

ลูกค้าคนนี้ขอวีซ่าจะไปหาแฟนที่ออสเตรเลีย ขอครั้งแรกผ่าน ขอครั้งที่ 2 ไม่ผ่าน ขอครั้งที่ 3 ไม่ผ่าน ทั้งๆที่ความสัมพันธ์กับแฟนก็คบกันมานาน และตอนที่ไปอยู่กับแฟนที่ออสเตรเลีย ก็ไม่ได้ทำผิดกฎวีซ่าอะไรเลย

ดังนั้น วีซ่าก็ไม่น่าที่จะถูกปฏิเสธได้ แต่โดนปฏิเสธ พอสอบถามเรื่องราวไปมา ถึงได้รู้สาเหตุ เพราะลูกค้าคนนี้ไปเจอเอเจ้นท์ไร้คุณภาพ นี่แหละครับ

ในการขอวีซ่าครั้งที่ 2 จริงๆไม่น่าจะมีปัญหาได้เลย แต่เนื่องจากมีเพื่อนของลูกค้าบอกจะสปอนเซอร์วีซ่าให้ ไม่จำเป็นต้องรอเอกสารจากแฟน ลูกค้าและเพื่อนจึงพากันไปหาเอเจ้นท์ เอเจ้นท์ก็ดันบอกว่าทำได้ วีซ่าผ่านแน่นอน การันตีผลซะด้วย

โดยที่ตัวเอเจ้นท์ไม่มีความรู้ว่า การเปลี่ยนสปอนเซอร์นั้นจะต้องเขียนอธิบายอย่างละเอียดมาก ซึ่งเอเจ้นท์ไร้คุณภาพคนนี้คงอยากได้เงินนั่นแหละ คิดแพงมากด้วย 25000 บาท ทั้งที่ตัวเองไม่มีความรู้ที่ถูกต้อง

การทำงานของเอเจ้นท์คนนี้ก็มักง่าย ด้วยความที่สปอนเซอร์เป็นเพื่อน น้ำหนักการสนับสนุนจะน้อย เอเจ้นท์เลยถือวิสาสะกรอกใบสมัครให้ โดยระบุว่าสปอนเซอร์คนที่ 2 เป็นแฟน (Boyfriend) ซึ่งเป็นการกระทำที่ยิ่งสร้างปัญหาเข้าไปใหญ่

ความสัมพันธ์ของลูกค้ากับแฟน (สปอนเซอร์คนแรก) ถูกบันทึกเอาไว้ในระบบของอิมมิเกรชั่นอยู่แล้ว ว่าสปอนเซอร์เป็นใคร สถานะเป็นอะไรกัน พอมีสปอนเซอร์คนที่ 2 มาเกี่ยวข้อง ตามกฎจะเท่ากับว่าความสัมพันธ์กับคนแรกจบลง ความสัมพันธ์ที่แท้จริงที่คบกันมา ก็ถูกบันทึกเป็นเปลี่ยนสปอนเซอร์ เพราะความมักง่ายของเอเจ้นท์ล้วนๆ

หลังจากวีซ่าโดนปฏิเสธ ลูกค้ากลับไปหาเอเจ้นท์คนนี้อีกที ถามว่าเป็นแบบนี้ แก้ไขอะไรได้มั้ย เอเจ้นท์บ่ายเบี่ยงไม่รับทำ หรือถ้าจะให้ทำต้องจ่าย 30000 บาท บอกว่าเคสนี้ยาก ทั้งที่ตัวเอเจ้นท์นั่นแหละ เป็นคนทำให้ยากเอง

เอเจ้นท์คนนี้แย่มาก คราวก่อนทำของเค้าเสียหาย โดนปฏิเสธมา แล้วไม่มีความรู้แบบนี้ ทำใหม่ก็ไม่มีทางผ่าน ยังมีหน้าไปเรียกเค้าเพิ่มอีก

พอจะยื่นครั้งที่ 3 ลูกค้าจึงไปหาเอเจ้นท์คนใหม่ ที่เป็นเอเจ้นท์นักเรียน เอเจ้นท์คนนี้ไม่ได้แย่ แต่เค้าน่าจะถนัดวีซ่านักเรียนมากกว่า เมื่อลูกค้าเล่าเรื่องราวให้ฟัง เอเจ้นท์ก็รับทำ แต่ไม่ได้เขียนอธิบายให้ละเอียดถูกต้อง เพราะความยุ่งยากที่เกิดจากการยื่นครั้งที่ 2 ยังไม่ได้ถูกแก้ วีซ่าจึงไม่ผ่านอีกครั้ง

เมื่อโดนปฏิเสธมา 2 ครั้งติดๆกัน ลูกค้าก็เครียดมาก

ถามผมว่า ถ้าจะยื่นอีกครั้งต้องทำยังไง

คำตอบ คือ ต้องเขียนอธิบายให้ละเอียดมากๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวลูกค้านั้นคบกับสปอนเซอร์คนแรกมาต่อเนื่องโดยตลอด โดยเอาหลักฐานความสัมพันธ์ หลักฐานการติดต่อในช่วงเวลาที่วีซ่าโดนปฏิเสธ ไฮไลท์ให้เห็นว่าคุยกับสปอนเซอร์คนนี้มาตลอดต่อเนื่อง พร้อมคำชี้แจง วีซ่าถึงจะมีโอกาสผ่านได้ (แต่ก็ไม่ 100% นะ เพราะไม่มีใครสามารถการันตีผลวีซ่าได้ การการันตีผลวีซ่านั้นผิดกฎหมายของประเทศออสเตรเลีย)

ผมบอกลูกค้าคนนี้อีกว่า ถ้ารู้ว่าเอเจ้นท์คนก่อนๆกรอกข้อมูลอะไรให้เราไปบ้าง ส่งหลักฐานอะไรไปบ้าง จะทำให้เราชี้แจงได้ละเอียดชัดเจนมากขึ้น ลูกค้าจึงติดต่อเอเจ้นท์เดิมทั้ง 2 คนไป เพื่อขอรายละเอียด แต่ได้รับการปฏิเสธ ไม่ให้อะไรเลย (พูดง่ายๆ พอไม่จ่ายเงินให้ ความเป็นลูกค้าก็จบ)

บอกตรงๆนะครับ ถ้าเค้าเห็นแก่ลูกค้า เค้าควรให้ข้อมูลมา ผมไม่จำเป็นลอกเค้าหรอก เพราะผมทำเอง ดีกว่าที่เค้าทำมากๆอยู่แล้ว

เคสนี้ ผมให้ลูกค้าเป็นคนตัดสินใจเอง และลูกค้าไม่จำเป็นต้องให้ผมเป็นคนดูแลเคสให้ เพียงแต่ผมแจ้งไปว่า เคสที่มีความละเอียดแบบนี้ ไม่ว่าจะใช้บริการเอเจ้นท์ไหนก็ตาม ต้องแน่ใจว่าเอเจ้นท์คนนั้นมีความรู้ที่ถูกต้อง

การใช้เอเจ้นท์ดูแลเรื่องวีซ่าให้เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะกับเคสที่ซับซ้อน หรือกับคนที่ไม่มีเวลา แต่ต้องเลือกเอเจ้นท์ที่มีคุณภาพจริงๆครับ

ถ้าเป็นการใช้เอเจ้นท์ในออสเตรเลีย ต้องเป็น registered migration agent เท่านั้นครับ ส่วนถ้าเป็นเอเจ้นท์ในไทย ก็ควรเป็นบริษัทที่ถูกต้อง และควรจะคุยรายละเอียดให้ชัดเจน เอเจ้นท์จะต้องอธิบายเกี่ยวเคสได้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ทุกอย่าง โอกาสผ่านมากน้อย ต้องแจ้งให้รู้แต่แรก ที่สำคัญต้องไม่การันตีผลวีซ่า

อ่อ สุดท้ายแล้ว ลูกค้าคนนี้ให้ผมดูแลเรื่องให้ และวีซ่าก็ผ่านแล้วนะครับ

ผมฝากกดไลค์ติดตามเพจเกี่ยวกับวีซ่าออสเตรเลียของผมด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/visa.au.help.official/

ขอบคุณครับ

Visa.Au.Help — Admin

ปรึกษาเรื่อง วีซ่า ติดต่อเราได้ที่ https://www.facebook.com/helpforvisa/