
สอบถามบริการดูแลเรื่องวีซ่า https://www.facebook.com/helpforvisa/
วีซ่าอเมริกา ขึ้นอยู่กับดวงจริงหรือ?
อเมริกานับเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ว่ากันว่าขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศได้ยากที่สุดประเทศหนึ่ง
ขั้นตอนการขอวีซ่าก็ไม่ได้ง่าย มีข้อมูลต่างๆให้กรอกมากมาย (แบบฟอร์ม DS-160) ราคาค่าธรรมเนียมก็ไม่ได้ถูก การพิจารณาเอกสารเองก็เข้มงวด รวมถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ต้องไปสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่สถานทูตด้วย
ค้นหาอ่านรีวิวการขอวีซ่าอเมริกาในอินเตอร์เน็ต ก็เจอทั้งคนที่บอกว่าง่าย เอกสารไม่เห็นมีอะไรเลย ยื่นให้ไปเจ้าหน้าที่ก็แทบไม่ดู สัมภาษณ์ไม่กี่คำถาม ก็ได้วีซ่า 10 ปีแล้ว และก็เจอทั้งคนที่บอกว่ายาก วีซ่าไม่ผ่าน เตรียมเอกสารไปเจ้าหน้าที่ก็ไม่ค่อยดูเหมือนกัน ถามไม่กี่คำถาม แล้วก็บอกว่า วีซ่าโดนปฏิเสธ
หลายคนจึงมองว่า การขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาเป็นเรื่องของ “ดวง” คนไหนวีซ่าผ่านก็บอกว่าคนนั้นดวงดี คนไหนไม่ผ่านก็คือดวงไม่ดี จริงๆแล้ว ดวงก็คงมีส่วนนั่นแหละ โดยเฉพาะเรื่องของการได้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนไหน เพราะเจ้าหน้าที่บางคนก็ให้วีซ่ายาก ส่วนบางคนให้ก็วีซ่าง่ายกว่า
แต่เรื่องของดวง เราควบคุมมันไม่ได้น่ะสิ ดังนั้นเราจะตัดมันออกไป แล้วพูดถึงแค่หลักการพิจารณาวีซ่าอย่างเดียว ซึ่งไม่ว่าจะสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนไหน ก็จะต้องใช้หลักการพิจารณาเดียวกัน
หลักการง่ายๆในการพิจารณาวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา รวมถึงวีซ่าท่องเที่ยวของอีกหลายๆประเทศ คือ วีซ่าท่องเที่ยวเป็นวีซ่าประเภทชั่วคราว เข้าไปแล้วอยู่ได้ชั่วคราว เข้าไปแล้วต้องกลับออกมา ดังนั้นคนที่มีความมั่นคงด้านการงาน การเงิน และครอบครัวอยู่ที่เมืองไทย ย่อมมีโอกาสทำผิดกฎวีซ่าน้อยกว่าคนที่มีส่วนประกอบเหล่านี้ไม่มั่นคง
ยกตัวอย่าง ผู้สมัคร A อายุ 30 ปี ทำงานในบริษัทใหญ่ ตำแหน่งหน้าที่การงานดีพอสมควร มีเงินเดือน 35,000 บาทโอนเข้าบัญชีตามปกติทุกสิ้นเดือน และทำงานที่บริษัทนี้มากว่า 5 ปี ฐานะทางการเงินปานกลาง คือ มีเงินเก็บบ้างไม่มากนัก สถานะโสด แต่ก็มีครอบครัว คือ พ่อแม่พี่น้องอยู่เมืองไทย
ขณะที่ ผู้สมัคร B อายุ 30 ปีเท่ากัน ทำงานในร้านค้าขนาดไม่ใหญ่ในตำแหน่งหัวหน้างาน เงินเดือนรับเป็นเงินสด โดยทางร้านออกจดหมายรับรองงานระบุว่าได้รับเงินเดือน เดือนละ 45,000 บาท ทำงานมากว่า 5 ปี ฐานะทางการเงินปานกลาง คือ มีเงินเก็บบ้างไม่มากนัก เพราะเงินเดือนไม่ได้เข้าบัญชี รับเป็นเงินสดก็แบ่งเข้าบัญชีบ้าง สถานะโสด แต่ก็มีครอบครัว คือ พ่อแม่พี่น้องอยู่เมืองไทย
ถ้าถามว่า สองคนนี้ ใครมีโอกาสขอวีซ่าผ่านมากกว่ากัน ตรงนี้ตอบได้ชัดๆเลยว่าเป็น A เนื่องจาก A นั้นทำงานในบริษัทที่มั่นคงกว่ามาก การจ่ายเงินเดือนอยู่ในระบบถูกต้อง ที่ผ่านมาทำ 5 ปี ต้องมีการหักเงินเข้ากองทุน ต้องเสียภาษีมาตลอด ต่างกับการงานของ B ซึ่งเป็นห้างร้านขนาดไม่ใหญ่ เงินเดือนไม่ได้เข้าระบบอะไร แถมยังจ่ายกันเป็นเงินสด ซึ่งถ้ามองกันตามหลักการแล้ว ที่ไหนจ่ายเงินเดือนเป็นเงินสด ก็แสดงว่ากิจการจะต้องมีขนาดเล็ก (กิจการขนาดใหญ่ จะโดนตรวจสอบเยอะ การจ่ายเงินเดือนต้องอยู่ในระบบ) ดังนั้นต่อให้ที่ทำงานของ B ออกเอกสารอะไรให้มา ระบุเงินเดือนมากแค่ไหนก็มา หรือระบุว่าทำงานมานานก็เถอะ น้ำหนักการพิจารณาก็มีไม่มาก
ผู้สมัคร 2 คนแตกต่างกันหลักๆคือเรื่องงาน ก็ส่งผลให้วีซ่าผ่าน หรือไม่ผ่านได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังต้องย้ำเตือนกันว่า เรื่องการขอวีซ่าเป็นเรื่องที่มีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายอย่างมาก กฎเกณฑ์ต่างๆก็มากมาย และที่สำคัญต้องดูกันเป็นกรณีๆไป หรือที่เรียกกันว่าเป็น Case by Case นี่แค่ยกมาให้ดูตัวอย่างเดียวจากทั้งหมดหลายร้อยหลายพันเคส ที่ไม่มีเรื่องดวงมาเกี่ยวของเลย ว่ากันตามหลักการพิจารณาล้วนๆ
และในส่วนของการกรอก ใบสมัคร online (DS-160) ใครที่บอกเราว่า ของเค้ากรอกแค่นี้ผ่านแล้ว ขอให้เราคิดเสมอว่า “นั่นมันของเค้า ไม่ใช่ของเรา” ถ้าเราจะขอวีซ่า เราต้องกรอกข้อมูลของเราให้ถูกต้อง ครบถ้วนที่สุด เพื่อให้วีซ่าของเรามีโอกาสผ่านมากที่สุด และหากโดนปฏิเสธมาจริงๆ จะได้ไม่ต้องคิดเสียใจทีหลัง ว่าน่าจะกรอกข้อมูลให้ดี ซึ่งการมาคิดได้ตอนนั้น มันไม่ช่วยอะไรแล้วจริงๆครับ
*** ลิ้งค์ ตัวอย่าง การกรอกแบบฟอร์ม DS-160 อย่างละเอียดที่ผมทำไว้ สามารถเข้าไปดู และกรอกตามได้เลย เชื่อว่าจะทำให้ทุกคนเข้าใจการกรอก DS-160 มากขึ้น ***
ดังนั้น การจะตอบคำถาม “วีซ่าอเมริกาขึ้นอยู่กับดวงจริงหรือ?” ก็คงได้คำตอบว่า “จริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด และที่สำคัญดวงเป็นส่วนที่ควบคุมไม่ได้ ดั้งนั้นการเตรียมตัว และการกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง จึงเป็นสิ่งที่เราทำได้และควรทำ ฝากเอาไว้เท่านี้ก่อนครับ”
เรื่องราวเกี่ยวกับวีซ่าอเมริกา ยังจะมีให้อ่านกันอีกเรื่อยๆ ติดตามเพจนี้ไว้ได้เลย https://www.facebook.com/helpforvisa/
ขอบคุณครับ
Admin – Help for Visa

ปรึกษาเรื่อง วีซ่า ติดต่อเราได้ที่ https://www.facebook.com/helpforvisa/